(ครุฑ)
ที่ อส ๐๐๐๗(พก)/ว ๔๗๖ สำนักงานอัยการสูงสุด
อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ฯ
ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง
เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๘
เรื่อง กำหนดแนวทางปฎิบัติตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕
กรณีผู้ต้องหาเป็นเด็กหรือเยาวชน
เรียน รองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจการอัยการ อธิบดีอัยการ อธิบดีอัยการภาค อัยการพิเศษฝ่ายเลขานุการ
อัยการสูงสุด อัยการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้า
หลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และผู้อำนวยการสำนักงาน
อ้างถึง ๑. หนังสือสำนักงานอัยการสูงสุดด่วนที่สุดที่ อส (สฝปผ.) ๐๐๑๘/ว ๔๖
ลงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๔๖
๒. หนังสือสำนักงานอัยการสูงสุดด่วนที่สุดที่ อส ๐๐๒๗(ปผ.) /ว ๑๒๗
ลงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔
ตามหนังสือที่อ้างถึง ๑ สำนักงานอัยการสูงสุดได้วางระเบียบแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินคดีฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดไว้ และตามหนังสือที่อ้างถึง ๒ สำนักงานอัยการสูงสุดได้กำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับพนักงานอัยการในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๓ นั้น
สำนักงานอัยการสูงสุดเห็นสมควรกำหนดแนวทางปฎิบัติเพื่อให้การปฏิบัติงานในการดำเนินคดีฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกรณีที่ผู้ต้องหาเป็นเด็กหรือเยาวชนเป็นไปแนวทางเดียวกัน ดังนี้
๑. กรณีที่ผู้ต้องหาเป็นเด็กหรือเยาวชนไม่เข้าเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๔ ตั้งแต่แรก กรณีจำต้องมีรายงานการสืบเสาะข้อเท็จจริงของสถานพินิจเพื่อประกอบการพิจารณา
๒. กรณีผู้ต้องหาที่เป็นเด็กหรือเยาวชนได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕ มาตรา ๑๙ เด็กหรือเยาวชนได้เข้าสู่การควบคุมของคณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด มิได้อยู่ในการควบคุมของสถานพินิจ ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๓ ต่อมาภายหลังพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดว่า ผลการฟื้นฟูสมรรถภาพเด็กหรือเยาวชนไม่เป็นที่พอใจและมีคำสั่งให้คืนเด็กหรือเยาวชนให้แก่พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป พนักงานสอบสวนย่อมขอผัดฟ้องต่อไปได้ รวมทั้งพนักงานอัยการมีอำนาจยื่นฟ้องเด็กหรือเยาวชนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในมาตรา ๗๘ แห่งพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๓ โดยไม่ต้องมีรายงานสืบเสาะข้อเท็จจริงของสถานพินิจ
๓. ในกรณีตามข้อ ๒ หากพนักงานสอบสวนไม่อาจผัดฟ้องได้ และทำให้พนักงานอัยการไม่อาจฟ้องคดีเด็กหรือเยาวชนได้ทันกำหนดระยะเวลาตาม มาตรา ๗๘ แห่งพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๓ พนักงานอัยการจะฟ้องคดีดังกล่าวได้ จะต้องขออนุญาตอัยการสูงสุดหรือพนักงานอัยการผู้มีตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีอัยการหรืออธิบดีอัยการภาคซึ่งอัยการสูงสุดมอบหมาย ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๘ เพื่อฟ้อง โดยต้องมีรายงานการสืบเสาะของสถานพินิจเพื่อประกอบการขออนุญาตฟ้องและเพื่อประกอบดุลพินิจในการลงโทษของศาล เพราะเด็กหรือเยาวชนมิได้อยู่ในการควบคุมตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕ อีกต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบและประกอบการพิจารณาในการปฏิบัติราชการต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
นายนิตสิต ระเบียบธรรม
รองอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการแทน
อัยการสูงสุด
ข้อกฎหมาย .-
- พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๓
"มาตรา ๗๘ เมื่อมีการจับกุมเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดตามมาตรา ๖๙ วรรคหนึ่ง หรือกรณีเด็กหรือเยาวชนปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวนตามมาตรา ๗๐ วรรคหนึ่ง ให้พนักงานสอบสวนรีบดำเนินการสอบสวน และส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมทั้งความเห็นไปยังพนักงานอัยการ เพื่อให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว ให้ทันภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เด็กหรือเยาวชนนั้นถูกจับกุม หรือปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวน แล้วแต่กรณี
ในกรณีความผิดอาญาที่มีอัตราโทษอย่างสูงตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้จำคุกเกินหกเดือนแต่ไม่เกินห้าปี ไม่ว่าจะมีโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตาม หากเกิดความจำเป็นไม่สามารถฟ้องเด็กหรือเยาวชนนั้นต่อศาลได้ทันภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการแล้วแต่กรณี ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอผัดฟ้องต่อไปได้อีกครั้งละไม่เกินสิบห้าวัน แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินสองครั้ง
ในกรณีความผิดอาญาที่มีอัตราโทษอย่างสูงตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้จำคุกเกินห้าปี ไม่ว่าจะมีโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อศาลสั่งอนุญาตให้ผัดฟ้องครบสองครั้งแล้ว หากพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอผัดฟ้องต่อไปอีก โดยอ้างเหตุจำเป็น ศาลจะอนุญาตตามคำขอนั้นได้ต่อเมื่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการได้แสดงถึงเหตุจำเป็นและนำพยานมาเบิกความประกอบจนเป็นที่พอใจแก่ศาล ในกรณีเช่นว่านี้ศาลมีอำนาจสั่งอนุญาตให้ผัดฟ้องต่อไปได้อีกครั้งละไม่เกินสิบห้าวัน แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินสองครั้ง
การผัดฟ้องดังกล่าว ให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบมีอำนาจผัดฟ้องต่อศาลที่พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบอยู่ในเขตอำนาจศาลนั้นได้
ในการพิจารณาคำร้องขอผัดฟ้อง ถ้าเด็กหรือเยาวชนซึ่งเป็นผู้ต้องหายังไม่มีที่ปรึกษากฎหมาย ให้ศาลแต่งตั้งให้ เพื่อแถลงข้อคัดค้านหรือซักถามพยาน"
"มาตรา ๘๐ ห้ามมิให้พนักงานอัยการฟ้องคดีเมื่อพ้นกําหนดระยะเวลาตามมาตรา ๗๘ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากอัยการสูงสุดหรือพนักงานอัยการผู้มีตําแหน่งไม่ต่ํากว่าอธิบดีอัยการหรืออธิบดีอัยการภาค ซึ่งอัยการสูงสุดมอบหมาย ทั้งนี้ ให้พนักงานอัยการผู้ได้รับมอบหมายรายงานผลการดําเนินการดังกล่าวให้อัยการสูงสุดทราบด้วย
การขออนุญาตและการอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในข้อบังคับของอัยการสูงสุด"
ข้อพิจารณา.- จากหนังสือดังกล่าวข้างต้น สรุปได้ว่า
กรณีที่ ๑. ผู้ต้องหา(เป็นเด็กหรือเยาวชน) ไม่เข้าเงื่อนไขฟื้นฟูตั้งแต่แรก ต้องมีรายงานการสืบเสาะข้อเท็จจริงจากสถานพินิจ (ผู้ต้องหาอยู่ในควบคุมของสถานพินิจ)
กรณีที่ ๒. ผู้ต้องหา(เป็นเด็กหรือเยาวชน) เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู แต่ปรากฏว่า ผลไม่เป็นที่พอใจ จึงสั่งคืนให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี (ผู้ต้องหาไม่อยู่ในควบคุมสถานพินิจตั้งแต่แรก) พนักงานสอบสวนต้องขอผัดฟ้องและพนักงานอัยการฟ้องภายในกำหนด ไม่ต้องมีรายงานการสืบเสาะข้อเท็จจริง (ต้องรีบฟ้องให้ทัน)
กรณีที่ ๓. พนักงานสอบสวนผัดฟ้องไม่ได้และอัยการฟ้องไม่ทัน ซึ่งต้องขออนุญาตอัยการสูงสุดหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ต้องมีรายงานสืบเสาะข้อเท็จจริงด้วย