วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

แนวทางประสานงาน กรณีของกลางตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ

ส่วนที่ ๖
การดําเนินการตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิด
เกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔

               ข้อ ๑๙  ในกรณีที่พนักงานอัยการไม่ขอให้ศาลสั่งริบทรัพย์สินที่พนักงานสอบสวนยึดไว้เป็นของกลางในคดียาเสพติด ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.๒๕๓๔ มาตรา ๓๐ และตามกฎหมายอื่น โดยเห็นสมควรให้พนักงานสอบสวนจัดการของกลางตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๕
                หากพนักงานอัยการ เห็นว่า ทรัพย์สินของกลางอาจเกี่ยวเนื่องกับการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่ามาก ให้พนักงานอัยการมีหนังสือแจ้งให้พนักงานสอบสวนประสานไปยังสํานักงาน ป.ป.ส. เพื่อเสนอเรื่องให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินดําเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของกลางดังกล่าวตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๑๙ ก่อนที่จะคืนของกลางให้แก่เจ้าของ โดยส่งสําเนาหนังสือให้สํานักงาน ป.ป.ส. ทราบด้วย
                เมื่อพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากพนักงานอัยการดังกล่าวแล้ว ให้มีหนังสือแจ้งรายละเอียด เกี่ยวกับทรัพย์สินของกลางไปยังเลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อดําเนินการตรวจสอบทรัพย์สิน
                กรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. มีคําสั่งให้มีการตรวจสอบ และสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของกลาง ให้พนักงานสอบสวนและพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ ผู้มีอํานาจดําเนินการรับมอบและส่งมอบทรัพย์สินของกลางภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบคําสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของกลาง
                 หากพนักงานสอบสวนไม่ได้รับคําสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของกลางจากเลขาธิการ ป.ป.ส. ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่สํานักงาน ป.ป.ส. ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน ให้พนักงานสอบสวนดําเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของกลางตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๕ วรรคท้าย

                 ข้อ ๒๐  เมื่อศาลรับคําร้องขอให้ริบทรัพย์สินของพนักงานอัยการตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๒๗ แล้ว ให้พนักงานอัยการมีหนังสือแจ้งเลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อดําเนินการตามมาตรา ๒๘ โดยเร็ว พร้อมทั้งแจ้งกําหนดวันนัดไต่สวนด้วย
                 ให้สํานักงาน ป.ป.ส. ดําเนินการแจ้งสิทธิให้ผู้เป็นเจ้าของหรือมีหลักฐานเป็นเจ้าของให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และส่งหลักฐานการดําเนินการแจ้งสิทธิให้พนักงานอัยการภายในกําหนดเวลานัดไต่สวน
                 ในกรณีที่ไม่อาจดําเนินการแจ้งสิทธิได้ทันวันนัดไต่สวนของศาล ให้สํานักงาน ป.ป.ส. มีหนังสือแจ้งพนักงานอัยการทราบก่อนวันนัดไต่สวนของศาล เพื่อพนักงานอัยการจะได้แจ้งให้ศาล และพยานทราบเหตุดังกล่าว
                  ก่อนถึงวันนัดไต่สวน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับหมายเรียกให้ไปเป็นพยานศาล ประสานไปยังพนักงานอัยการเพื่อยืนยันการเป็นพยานศาล พร้อมทั้งตรวจสอบว่า ได้มีการดําเนินการแจ้งสิทธิ ตามมาตรา ๒๘ เรียบร้อยแล้วหรือไม่ หากยังไม่เสร็จเรียบร้อยให้รีบดําเนินการให้เรียบร้อยก่อนวันนัดไต่สวน

               ข้อ ๒๑  ในกรณีที่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจผู้เป็นหัวหน้าในการสืบสวน หรือหัวหน้าพนักงานสอบสวน พิจารณาเห็นว่าจําเป็นต้องดําเนินคดีต่อผู้กระทําความผิดในฐาน สนับสนุน ช่วยเหลือหรือสมคบกันกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้รีบดําเนินการรวบรวม ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ดังกล่าว แล้วประสานงานกับสํานักงาน ป.ป.ส. เพื่อเสนอขออนุมัติจับกุมหรือแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทําความผิดจากเลขาธิการ ป.ป.ส. ตามหลักเกณฑ์วิธีการและขั้นตอนที่กําหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.๒๕๓๔

(ข้อกฎหมาย.- พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.๒๕๓๔
               มาตรา ๑๙  ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าทรัพย์สินของผู้ต้องหารายใดเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้คณะกรรมการสั่งให้มีการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้นั้น ฯลฯ
               มาตรา ๒๗  เมื่อพนักงานอัยการมีคําสั่งฟ้อง และทรัพย์สินที่คณะกรรมการมีคําสั่งให้ยึดหรืออายัดตามมาตรา ๒๒ เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ก็ให้พนักงานอัยการยื่นคําร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งริบทรัพย์สินนั้น โดยจะยื่นคําร้องไปพร้อมกับคําฟ้องหรือในเวลาใด ๆ ก่อนศาลชั้นต้นมีคําพิพากษาก็ได้ แต่ถ้ามีเหตุอันสมควรแสดงได้ว่าไม่สามารถยื่นคําร้องก่อนศาลชั้นต้นมีคําพิพากษา จะยื่นคําร้องภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคําพิพากษาก็ได้ เว้นแต่มีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้อง ฯลฯ
               มาตรา ๒๘  เมื่อศาลสั่งรับคําร้องของพนักงานอัยการตามมาตรา ๒๗ แล้ว ให้ศาลสั่งให้ประกาศในหนังสือพิมพ์ที่มีจําหน่ายแพร่หลายในท้องถิ่นสองวันติดต่อกัน เพื่อให้ผู้ซึ่งอาจอ้างเป็นเจ้าของทรัพย์สินมายื่นคําร้องขอเข้ามาในคดีก่อนคดีถึงที่สุด ในกรณีที่มีหลักฐานแสดงว่าผู้ใดอาจอ้างเป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ ก็ให้เลขาธิการมีหนังสือแจ้งให้ผู้นั้นทราบเพื่อใช้สิทธิดังกล่าวด้วย โดยแจ้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับตามที่อยู่ครั้งหลังสุดของผู้นั้นเท่าที่ปรากฏหลักฐานในสํานวนการสอบสวน ฯลฯ
               มาตรา ๓๐  บรรดาเครื่องมือ เครื่องใช้ ยานพาหนะ เครื่องจักรกล หรือทรัพย์สินอื่นใดที่ใช้ในการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ริบเสียทั้งสิ้นไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคําพิพากษาหรือไม่ก็ตาม ฯลฯ)

(ข้อพิจารณา.- ถ้าหากพนักงานสอบสวนเห็นว่า คดีมีแนวโน้มว่าศาลจะพิพากษายกคำขอให้สั่งริบของกลาง ก็ให้พนักงานสอบสวนประสานไปยัง สํานักงาน ป.ป.ส. เพื่อเสนอเรื่องให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ดําเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของกลางนั้น ควบคู่กันไปได้ในทันที)