คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7354/2555
ป.วิ.อ. การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน (มาตรา 227 วรรคสอง)
พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
โจทก์ มี สิบตำรวจโท อ. สิบตำรวจโท ส. และ สิบตำรวจโท ป. เป็นประจักษ์พยานเบิกความว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจำเลยลักลอบจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จึงรายงานผู้บังคับบัญชา วันเกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชาไปขอหมายค้นจากศาลชั้นต้น แล้วร่วมกันวางแผนจับกุมโดยนำธนบัตรของกลางไปถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันธุรการไว้ แล้วให้สายลับนำธนบัตรดังกล่าวไปติดต่อซื้อเมทแอมเฟตามีน 3 เม็ด จากจำเลยในราคาเม็ดละ 60 บาท โดยพยานโจทก์ทั้งสามกับพวกซุ่มดูอยู่ห่างจากบ้านจำเลยประมาณ 30 เมตร เมื่อสายลับขับรถจักรยานยนต์เข้าไปพบจำเลยที่บ้านจำเลย แล้วสายลับส่งธนบัตรให้จำเลย ส่วนจำเลยเดินเข้าไปที่ห้องน้ำซึ่งอยู่ห่างจากตัวบ้านชั้นล่างประมาณ 1 ถึง 2 เมตร จากนั้นกลับออกมานำสิ่งของไปส่งมอบให้สายลับ สายลับขับรถจักรยานยนต์กลับออกมามอบเมทแอมเฟตามีน ๓ เม็ด ให้แก่พยานโจทก์ทั้งสามที่จุดซุ่มดังกล่าว พยานโจทก์ทั้งสามกับพวกจึงขับรถยนต์กระบะเข้าไปที่บ้านจำเลย โดยแสดงหมายค้นแล้วให้จำเลยล้วงสิ่งของออกจากตัวจำเลยพบธนบัตรของกลาง ส่วนสิบตำรวจโท ป. ไปตรวจค้นบริเวณหน้าห้องน้ำ พบเมทแอมเฟตามีนอีก 24 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสขนาดเล็กอยู่ในกองเสื้อผ้า
เห็นว่า การค้นพบเมทแอมเฟตามีนของกลางอีก 24 เม็ดนั้น โจทก์มีเพียงสิบตำรวจโท ป. ไปตรวจค้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านหลังบ้านจำเลยและพบของกลางดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่มีบุคคลอื่นรู้เห็นในขณะตรวจค้นด้วย อีกทั้ง ไม่มีการทำบันทึกการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน พยานโจทก์เช่น สิบตำรวจโท อ. และสิบตำรวจโท ป. ก็เบิกความตอบคำถามค้านของทนายจำเลยว่า บ้านจำเลยไม่มีรั้ว ดังนั้น บุคคลทั่วไปย่อมสามารถผ่านเข้าออกได้โดยง่าย ขณะเกิดเหตุ ก็มีผู้อื่นนั่งอยู่ในบ้านจำนวนหลายคน แม้จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม แต่ก็ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน
พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบจึงมีความสงสัยตามสมควรว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีน ๒๔ เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย