วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การจับและค้นพบของกลางต่างท้องที่แต่แยกเป็นสองคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  6900/2553
ป.อ. มาตรา 90
ป.วิ.อ. มาตรา 39
               เจ้าพนักงานตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ จับจำเลยได้ ขณะจำเลยขับรถมาจอดอยู่ในท้องที่และยึดได้เมทแอมเฟตามีน จำนวน 100 เม็ด เป็นของกลาง แล้วมีการสอบสวนขยายผลจนนำไปสู่การขอหมายค้นเพื่อตรวจค้นบ้านที่จำเลยพักอาศัยซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ สน.ประชาชื่น ในวันเดียวกันและพบเมทแอมเฟตามีน จำนวน 26 เม็ด เจ้าพนักงานตำรวจแยกดำเนินคดีเป็น 2 คดี จึงรับฟังได้ว่าเมทแอมเฟตามีนทั้งสองส่วนก็คือเมทแอมเฟตามีนจำนวนเดียวกัน โดยจำเลยมีเจตนาครอบครองในคราวเดียวกัน แม้เจ้าพนักงานตำรวจจะตรวจค้นได้ต่างสถานที่กันก็เป็นเพราะการแยกเก็บรักษาหรือซุกซ่อนเท่านั้น
               เหตุที่มีการตรวจค้นบ้านของจำเลยหลังจากนั้นหลายชั่วโมง เนื่องมาจากกระบวนการในการสอบสวนของเจ้าพนักงานตำรวจ การขอหมายค้นรวมถึงการประสานงานกับเจ้าพนักงานตำรวจเจ้าของท้องที่ที่บ้านของจำเลย ลำพังการตรวจยึดได้ของกลางต่างเวลากัน ไม่ทำให้การที่จำเลยมีเจตนาครอบครองเมทแอมเฟตามีนทั้งสองส่วนไว้ในคราวเดียวกันกลายเป็นการกระทำต่างกรรมกัน ทั้งโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานใดมานำสืบให้เห็นว่าจำเลยได้รับเมทแอมเฟตามีนทั้งสองส่วนนั้นมาคนละคราว อันจะทำให้สามารถแยกเจตนาในการครอบครองเมทแอมเฟตามีนนั้นได้ เช่นนี้ การกระทำความผิดของจำเลยในคดีนี้กับในคดีหมายเลขแดงที่ ย.15362/2545 จึงเป็นการกระทำกรรมเดียว
               เมื่อจำเลยถูกดำเนินคดีในข้อหามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำนวน 100 เม็ด และศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดดังกล่าวซึ่งได้ฟ้องแล้ว สิทธิในการนำคดีอาญามาฟ้องจำเลยของโจทก์จึงเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4)